รถยนต์ เฉลิมชัยรถบ้าน
“เฉลิมชัยรถบ้าน ขอนำเสนอ โตโยต้า ยาริส เป็นชื่อของรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาก ที่ท้ายสั้น มีขนาดเล็กกะทัดรัดของโตโยต้า ซึ่งยาริส มีชื่ออีก 2 ชื่อ ที่ใช้เรียกในประเทศอื่นๆ คือชื่อ โตโยต้า วิตซ์ (Toyota Vitz) และ โตโยต้า เอโค (Toyota Echo)โตโยต้า ยาริส ผลิตมาเพื่อทดแทนรถรุ่น โตโยต้า สตาร์เล็ต (Toyota Starlet) ซึ่งได้เลิกผลิตไป เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยก่อนหน้านี้ ในประเทศไทย สตาร์เล็ตเป็นรถรุ่นแรกๆ ที่มีขนาดเล็ก และมีโครงตัวถังแบบ hatchback (ท้ายกุด ไม่มีกระโปรงหลัง) ที่เข้ามาขายในประเทศไทย และมีคู่แข่งในสมัยนั้นคือ นิสสัน มาร์ช ซึ่งก็มีกระแสตอบรับมาบ้างในเรื่องของความประหยัดน้ำมัน และความกะทัดรัดขับง่าย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก เนื่องจากคนไทยในช่วงนั้น ไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยของรถรุ่นสตาร์เล็ต เพราะเกรงว่าผู้โดยสารที่นั่งหลังจะได้รับอันตรายได้ง่ายหากถูกชนท้าย จนเลิกผลิตไปในที่สุดปีเดียวกับที่สตาร์เล็ตเลิกผลิต ทางโตโยต้าก็ได้นำยาริสเข้ามาแทนที่ ด้วยการออกแบบโดย Sotiris Kovos นักออกแบบชาวกรีก ที่ทำให้ยาริสมีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่า และดูทันสมัยขึ้น ทำให้ยาริสเป็นที่นิยม และมียอดขายดีกว่าสตาร์เล็ตยาริส เป็นรถรุ่นที่ใกล้เคียงและแข่งกับ ฮอนด้า แจ๊ซ เริ่มผลิตเมื่อ พ.ศ. 2542 และจนถึงปัจจุบัน แบ่งวิวัฒนาการเป็น 3 โฉม (Generation) คือGeneration ที่ 1 (พ.ศ. 2542 – 2548) โฉมแรกนี้ ยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย ผลิตระหว่าง พ.ศ. 2542 – พ.ศ. 2548 แต่ในประเทศญี่ปุ่น,ออสเตรเลียและแคนาดา ยาริสโฉมนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ไม่มีขายในสหรัฐอเมริกา เป็นรถที่มีความประหยัดน้ำมันสูง ขนาดเครื่องยนต์เล็กที่สุดเริ่มต้นเพียง 1000 ซีซี 50 แรงม้า (1SZ-FE) และเครื่องยนต์ที่แรงกว่าอีกหลายขนาดไปจนถึงเครื่องยนต์เทอร์โบ (I4) 150 แรงม้าในยุโรป ยาริสได้รับรางวัล European Car of the Year ประจำปี ค.ศ. 2000 ด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด VVT-i ยาริสเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบรถเล็กกะทัดรัดขับง่าย ประหยัดน้ำมัน แต่ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบรถใหญ่ที่ดูภูมิฐานอย่างในสหรัฐอเมริกา ยาริสไม่มีขายพ.ศ. 2548 ยาริสก้าวเข้าสู่เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งโฉมนี้ เป็นที่รู้จักและนิยมในเมืองไทยอย่างมากGeneration ที่ 2 (พ.ศ. 2548 – 2556) โฉมนี้ เป็นที่รู้จักในประเทศไทย ด้วยรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยและใหญ่ขึ้นในหลายมิติ เริ่มผลิตตั้งแต่ พ.ศ. 2548 มาจนถึง พ.ศ. 2556 โดยเข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2549–ปัจจุบัน โดยใช้สโลแกนเปิดตัวว่า “”Are you groovy?”” การผลิตระบบเกียร์มี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เครื่องยนต์ Toyota 1NZ-FE VVT-i 4 สูบ 1.5 L. 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์)ที่ 6,000 RPM แรงบิดที่ 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 RPM ประหยัดน้ำมันประมาณ 12.3 กิโลเมตรต่อลิตรในเมือง และ 15.3 กิโลเมตรต่อลิตรในชนบท และมีความแพร่หลายออกไปในหลายประเทศมากขึ้น เช่น ในประเทศไทย สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศ ที่ไม่มียาริสรุ่นแรกขาย ก็มียาริสรุ่นที่สองออกขายยุคของยาริสโฉมที่สองในประเทศไทยโตโยต้า ยาริส ในประเทศไทย ได้มีการแบ่งออกเป็นสามยุค ดังนี้ยุคแรกจะทำตลาดตั้งแต่ พ.ศ. 2548–2552 โดยมีกระจังหน้าใหญ่ และโคมไฟเลี้ยวหลังสีขาว มี 4 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น J (Manual / Automatic) เป็นรุ่นต่ำสุด เพิ่มเข้ามาใน พ.ศ. 2551 หลังการเปิดตัว 3 ปี อุปกรณ์มาตรฐานทั้งหมดเท่าตัว E แต่จะได้ล้อกระทะเหล็กแบบมีฝาครอบขนาด 15 นิ้ว ยาวขนาด 185/60R15 และจะตัดอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยออกทั้งหมด ทั้ง ABS, EBD และถุงลมนิรภัย คงเหลือไว้เพียงความปลอดภัยภาคบังคับ เช่น โครงสร้าง GOA และเข็มขัดนิรภัย โดยรุ่น J Manual เป็นเกียร์ธรรมดาของรุ่นต่ำสุด และรุ่น J Automatic เป็นเกียร์อัตโนมัติของรุ่นต่ำสุด โดยไม่มีความแตกต่างในออปชั่นอื่น และจัดว่าเป็นรุ่นต่ำสุดเหมือนกันรุ่น E (Manual/Automatic/Automatic Limited) เป็นรุ่นกลาง อุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มจากตัว J คือระบบความปลอดภัยดังกล่าว และล้ออัลลอย 15 นิ้ว ยาวขนาด 185/60R15 (โดย E Manual ถือเป็นรุ่นสูงกว่า J Automatic) และเฉพาะรุ่น E Automatic Limited จะได้สเกิร์ตรอบคัน, สปอยเลอร์, พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง (ซึ่งไม่มีในรุ่น G ทั้งตัวธรรมดาและ Limited)รุ่น G (Automatic/Automatic Limited)เป็นรุ่นท็อป ประเภทเทคโนโลยี ได้เพิ่มจากรุ่น E คือ ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง (รุ่น J และรุ่น E มีเพียงเฉพาะด้านหลัง), คิ้วยางกันกระแทกรอบคัน, เบาะหนัง, ลำโพง 6 ตำแหน่ง (รุ่น J และรุ่น E มี 4 ตำแหน่ง), ที่ปัดน้ำฝนจังหวะปัดหยุดตั้งค่าได้, ถาดใต้เบาะผู้โดยสารหน้า, แผงปิดสัมภาระท้ายรถ, เบาะหลังแยกพับ (รุ่น J และรุ่น E พับรวมก้อนเดียว), กระจกข้างปรับ-พับไฟฟ้า (รุ่น J และรุ่นE เป็นปรับไฟฟ้า-พับมือ), กุญแจรีโมท และสัญญาณกันขโมย และเฉพาะรุ่น G Automatic Limited จะได้ระบบ Keyless Entry, Push Start และกุญแจ Immobilizer (ซึ่งไม่มีในรุ่น S ทั้งธรรมดาและ Limited)รุ่น S (Automatic/Automatic Limited)เป็นรุ่นท็อป ประเภทสปอร์ต โดยจะเพิ่ม สเกิร์ต สปอยเลอร์ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง แต่จะตัดเบาะหนังออกไปเป็นเบาะผ้า ตัดระบบ Smart Entry, Push Start, กุญแจ Immobilizer และเฉพาะรุ่น S Automatic Limited จะได้ไฟซีนอน และล้ออัลลอย 16 นิ้ว ยางขนาด 195/50R16รุ่นพิเศษ TRD SPORTIVO ซึ่งจะได้ ล้ออัลลอย 16 นิ้ว ลายพิเศษ TRD SPORTIVO/สติ๊กเกอร์ข้างรถลาย TRD SPORTIVO/ชุดแต่งสเกิร์ต TRD SPORTIVO รอบคันยุคที่ 2พ.ศ. 2552–2555 เปลี่ยนสโลแกนเป็น “”Yaris Me”” กระจังหน้าเล็ก โคมไฟเลี้ยวหลังสีส้ม และมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นย่อยและอุปกรณ์มาตรฐาน ดังนี้ได้ตัดรุ่นย่อย G Automatic Limited ออกไปเพิ่มกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ในรุ่น S Ltd., G Ltd., G A/T, E Ltd., E A/T, E M/T, TRD Sportivo IIรุ่น S Automatic Limited และ S Automatic ได้ตัดล้อขนาด 16 นิ้วออกไป (แล้วแทนด้วยล้อแม็กขนาด 15 นิ้ว ลายเดียวกันทั้งสายการผลิต) และไฟซีนอนออก แต่ได้ใส่ออปชั่นที่เคยอยู่ในรุ่น G Automatic Limited เข้าไปเพื่อทำรุ่น S Automatic Limited ให้เป็นรุ่นท็อปเพียงหนึ่งเดียว แต่กระนั้นรุ่น S Automatic Limited และ S Automatic ก็ยังใช้เบาะผ้า และรุ่น G Automatic Limited และ G Automatic ยังเป็นเบาะหนัง และในทุกรุ่นย่อยที่มีเบาะผ้า จะได้เลือกลายของเบาะผ้า ซึ่งมีให้เลือกถึง 10 แบบและช่วงต่อมาได้มีการเพิ่มรุ่นพิเศษ 2 รุ่นTRD II (ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น E)แต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น E คือ ล้ออัลลอย 15 นิ้ว ลายพิเศษ TRD SPORTIVO พร้อมสติ๊กเกอร์ด้านข้าง ชุดแต่งรอบคัน และสัญลักษณ์ TRD SPORTIVO แทนสัญลักษณ์รูปตัว EACE ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น Jแต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น J คือ ล้ออัลลอย 15 นิ้ว ลายพิเศษ พร้อมสติ๊กเกอร์ด้านข้างสีสดใสมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีแดง และสีดำ ชุดแต่งสีรอบคัน และสัญลักษณ์ ACE แทนสัญลักษณ์รูปตัว Jยุคที่ 3พ.ศ. 2555–2556 เปลี่ยนสโลแกนเป็น “”Best Buddy”” กระจังหน้าเล็ก ไฟหลังดวงกลมแบบญี่ปุ่น ได้เปลี่ยนเบาะในรุ่น G เป็นเบาะผ้า (ทำให้ยาริสยุคที่ 3 เป็นเบาะผ้าทั้งหมด) และตัดรุ่น S Automatic ธรรมดาออก ส่วนรุ่น S Automatic Limited เปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น RS เพิ่มไฟหน้าและไฟท้ายรมดำ หน้าจอสัมผัสแบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 7 นิ้ว และเพิ่มล้อ 16 นิ้ว ลายเดิม แต่เพิ่มการรมดำ เพื่อเพิ่มความสปอร์ตอย่างไรก็ตาม ยาริสรุ่นที่สองเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ขายในประเทศไทย หลังจากหมดอายุตลาดของยาริสรุ่นนี้ ก็ถูกแทนที่ด้วยรถรุ่นอื่น ซึ่งเพียงนำชื่อยาริสมาใช้ทำตลาดเท่านั้น ไม่ใช่ยาริสที่แท้จริงแต่อย่างใดGeneration ที่ 3 (XP130, พ.ศ. 2554 – 2562; XP150, พ.ศ. 2553 – ปัจจุบัน) โตโยต้า ยาริส รุ่นที่สามได้เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 โดยมาการออกแบบภายนอกให้ดูมีความสปอร์ตมากขึ้น และมีการออกแบบภายในใหม่ ยาริสรุ่นที่สามนี้ได้ใช้ที่ปัดน้ำฝนแท่งเดียวแทนที่ปัดน้ำฝนแบบคู่และได้ย้ายคอนโซลจากตรงกลางมาอยู่ที่หลังพวงมาลัยแทนเมื่อเทียบจากรุ่นที่สองโตโยต้า ยาริสโฉมนี้จะไม่มีการผลิตและการจำหน่ายในประเทศไทยตลาดยุโรปยาริส/วิตซ์ รุ่นที่สามได้เปิดตัวในยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2554 ส่วนรุ่นปรับโฉมได้เปิดตัว พ.ศ. 2557 ทั้งเวอร์ชันก่อนและหลังปรับโฉมใช้เครื่องยนต์และระบบเกียร์เดิม แต่รุ่นปรับโฉมมีการปรับปรุงการขับขี่ให้สะดวกสบายกว่าและปรับปรุงภายในให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นประเทศญี่ปุ่นวิตซ์ รุ่นที่สาม ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ที่เมืองโยโกฮาม่า และก็เริ่มทะยอยเปิดตัวในประเทศอื่นภายในปี พ.ศ. 2554เอเชียในหลาย ๆ ประเทศในแถบเอเชียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ได้มีการเปิดตัวโตโยต้า ยาริส (รหัส XP150) ประกอบไปด้วย ประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย ไต้หวัน และเวียดนาม โดยยาริส เวอร์ชันนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับยาริสรุ่นที่แล้วเลยส่วนในประเทศสิงคโปร์ ได้เปิดตัวยาริสรุ่นที่ 3 (XP130) ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2556 และใช้เครื่องยนต์ 1.33 ลิตร เป็นประเทศในแถบอาเซียนประเทศเดียวที่ใช้ยาริสโฉมนี้ออสเตรเลียโตโยต้า ยาริส (XP130) สำหรับตลาดออสเตรเลียได้เผยโฉมเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ในงานออสเตรเลียน อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ที่เมืองเมลเบิร์น[4] ยาริสเวอร์ชันออสเตรเลียมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตรและ 1.5 ลิตร โดยตั้งแต่รุ่นที่ถูกที่สุดไปจนถึงรุ่นที่แพงที่สุดจะได้ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งและหน้าจอแสดงผลข้อมูลเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอเมริกาเหนือสำหรับเวอร์ชันอเมริกาเหนือ ยาริส (XP130) ได้เปิดตัวในไตรมาสที่สี่ของ พ.ศ. 2554 เป็นรุ่นปี พ.ศ. 2555 โดยยาริสเวอร์ชันอเมริกาเหนือมีทั้งรุ่นแฮทช์แบ็กสามประตูและห้าประตู ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เครื่องเดิมจากรุ่นที่แล้วพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ[5] ยาริสเวอร์ชันอเมริกาเหนือรุ่นปี พ.ศ. 2555 ทั้งรุ่นสามประตูและห้าประตูประกอบไปด้วยรุ่นย่อย L (CE ในแคนาดา), รุ่นระดับกลาง LE และรุ่นสปอร์ต SE โดยที่รุ่นย่อย SE มีเพียงเฉพาะรุ่นห้าประตูและมาพร้อมกับล้ออัลลอย 16 นิ้ว ช่วงล่างแบบสปอร์ตและดิสก์เบรกในทุกสี่ล้อ และรุ่นย่อยทั้งหมดนี้มีถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไฮบริดโตโยต้า ยาริส เอชเอสดี คอนเซ็ปต์ ได้เผยโฉมที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 โดยคอนเซ็ปต์นี้มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฮบริดต่อมา โฉมผลิตจริงก็ได้เปิดตัวในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 ที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์[8] ยาริส ไฮบริดนี้ได้ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดร่วมกันกับโตโยต้า พริอุส ซี ที่ขายในอเมริกาเหนือและเป็นชื่อโตโยต้า อควา ในประเทศญี่ปุ่น โดยที่ยาริส ไฮบริดจะมาแทนโตโยต้า พริอุส ซี ที่ไม่ได้ขายในทวีปยุโรปยาริส ไฮบริด ได้เริ่มขายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555[10] และขายได้ 23,692 หน่วยภายในปี พ.ศ. 2555 และยอดขายก็เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ จนถึง 35,151 หน่วยถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 ปรับโฉม (พ.ศ. 2557) ใน พ.ศ. 2557 ก็ได้มีการปรับโฉมขึ้น โดยรุ่นปรับโฉมได้ออกแบบและพัฒนาจากโตโยต้ายุโรป ไม่เหมือนกับรุ่นก่อน ๆ ที่ได้ออกแบบและพัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น โดยรุ่นปรับโฉมนี้ โตโยต้ารับประกันว่ามีความสะดวกสบายในการขับขี่เพิ่มขึ้น ห้องโดยสารมีความเงียบเมื่อขับรถในความเร็วสูง วัสดุภายในห้องโดยสารให้อารมณ์สัมผัสที่ดีขึ้นปรับโฉม (พ.ศ. 2560) ในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560 โตโยต้า ยาริส/วิตซ์ ได้เปิดตัวรุ่นปรับโฉมครั้งที่สองขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และได้มีตัวเลือกขับเคลื่อนไฮบริดมาด้วย ยาริส รุ่นปรับโฉมครั้งที่สองก็ได้เปิดตัวในฝั่งยุโรปและออสเตรเลียต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 และหลังจากนั้นก็ได้เปิดตัวต่อในทวีปอเมริกาเหนือและประเทศแอฟริกาใต้ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560ส่วนรุ่นสมรรถนะสูงมีชื่อว่า Yaris GRMN (Gazoo Racing, Masters of the Nurburgring) มาพร้องกับเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ 1.8 ลิตร สามารถผลิตกำลังได้สูงถึง 205 แรงม้า ซึ่งจะตามมาในภายหลังคลังรูปภาพยาริส (XP130) สามประตู (ก่อนปรับโฉม)ยาริส (XP130) ห้าประตู (ก่อนปรับโฉม)ภายใน (ก่อนปรับโฉม)ยาริส (XP130) ห้าประตู (ปรับโฉม พ.ศ. 2557)ยาริส (XP130) ห้าประตู (ปรับโฉม พ.ศ. 2557)ยาริส (XP130) ห้าประตู (ปรับโฉม พ.ศ. 2560)ยาริส (XP130) ห้าประตู (ปรับโฉม พ.ศ. 2560)โฉมเอเชียดูบทความหลักที่: โตโยต้า ยาริส (รหัส XP150)โตโยต้า อีโคคาร์ ในชื่อ ยาริสตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โตโยต้า ยาริสอีกเวอร์ชันที่แตกต่างจากรุ่นเดิม สร้างจากพื้นฐานของโตโยต้า วีออส (รุ่นที่สาม รหัส XP150) ได้เปิดตัวในตลาดเอเชีย ประกอบไปด้วยประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศสิงคโปร์ ไต้หวัน ประเทศเวียดนามและประเทศฟิลิปปินส์โตโยต้า ยาริส แอล (ประเทศจีน)ภายในในตลาดประเทศจีน ได้ใช้ชื่อว่า โตโยต้า ยาริส แอล ได้ใช้เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร รหัส 6NR-FE และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร รหัส 7NR-FE ต่อมารุ่นปรับโฉมของยาริส แอลก็ได้เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2559ในประเทศไทย ยาริสได้เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3NR-FE เพื่อที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “”อีโคคาร์”” มีรุ่นย่อยต่อไปนี้ : J ECO, J, E, G และ TRD Sportivo. โตโยต้า ยาริส TRD Sportivo (โฉมอินโดนีเซีย)สำหรับตลาดประเทศอินโดนีเซีย ยาริส รหัส XP150 ได้เปิดตัวในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยที่ยาริสรุ่นประเทศอินโดนีเซียจะคล้ายกับรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย แต่มีเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า โดยใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE มีรุ่นย่อยคือ: E, G, และ TRD Sportivo ต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ได้มีการปรับอุปกรณ์โดยเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร รหัส 2NR-FE และเพิ่มรุ่นย่อยอีกรุ่นที่มีลักษณะคล้ายรถเอสยูสีครอสโอเวอร์ในชื่อว่า ยาริส เฮเกอร์ส (Yaris Heykers)สำหรับตลาดประเทศฟิลิปปินส์ ยาริส รหัส XP150 ได้เปิดตัวเมื่อท้ายปี พ.ศ. 2556 มีสองรุ่นย่อยคือ: 1.3 E และรุ่น 1.5 Gและรุ่นนี้ก็ได้ใช้ชื่อว่า ยาริส สปอร์ต ในตลาดประเทศชิลี เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ พ.ศ. 2557 และประเทศอาเจนติน่าเมื่อ พ.ศ. 2559 โดยส่งออกมาจำหน่ายจากประเทศไทย ยาริส เอทีฟโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ในรูปแบบตัวถังซีดาน โดยคำว่าเอทีฟ (ATIV) เป็นคำที่มาจากคำว่า Smart และ Active ยาริส เอทีฟได้เปิดตัวภายใต้แนวคิด “”Life Activated… เริ่มต้น สู่โลกที่กว้างกว่าเครื่องยนต์ได้ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE เหมือนกับรุ่นแฮทช์แบ็ก ส่วนความปลอดภัยนั้นได้มีถุงลมนิรภัย 7 จุดและระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไหลและระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (ABS, EBD, BA, VSC, TRC, HAC) ในทุกรุ่นย่อยรุ่นปรับโฉมโตโยต้า ยาริสโฉมเอเชียได้มีการปรับโฉมในเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 โดยมีหน้าตาคล้ายกับเอทีฟและด้านท้ายได้รับแรงบันดาลใจมาจากโตโยต้า ออริสรุ่นที่สอง ส่วนระบบความปลอดภัยนั้นมีมาให้เหมือนกับเอทีฟทุกประการ มีรุ่นย่อยทั้งหมดดังนี้ : J Eco, J, E, G ซึ่งรุ่นย่อย S มีในเฉพาะรุ่นเอทีฟเท่านั้นToyota Yaris รุ่นปรับโฉม 2562และในปี 2562 Toyota Yaris ก็ได้เผยโฉมใหม่ที่พึ่งปรับโฉมปลายปี 2562 มาพร้อมกับขุมกำลังใหม่ที่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Dual VVT-iE ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีชุดแต่ง YARIS CROSS ยกสูงขึ้น 30 มม. เพิ่มความโดดเด่น มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือรุ่น High A/T รุ่น Mid A/T รุ่น Entry A/T ที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม. / ลิตรโฉมสหรัฐอเมริกา (พื้นฐานจาก มาสด้า 2 DJ) 2016 Scion iA sedan (United States)2017 Toyota Yaris iA sedan (United States)2020 Toyota Yaris XLE hatchback (United States)ประเด็นสำคัญของ Toyota ที่น่าจับตาคือ Toyota จะเอายังไงกับอนาคตของ All NEW Yaris ในทุก ๆ ตลาดของโลกกันแน่? เพราะ Yaris ในตลาดอาเซียนก็เพิ่งเปิดตัวรุ่น Big Minorchange ในปี 2017 แต่สำหรับ Yaris Hatchback เวอร์ชันอื่นกลับมีอายุตัวถังนานถึง 9 ปีแล้ว แล้วอย่างนี้ Toyota จะมีกลยุทธ์ในการพัฒนารถเล็กรุ่นใหม่ยังไงกันแน่สำหรับตลาดอื่น ๆ ในโลกยังไม่มีใครรู้ แต่สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาก็เริ่มมีความชัดเจนว่า Toyota มีสิทธิ์ยุติสายการผลิต Yaris Hatchback ค่อนข้างแน่นอน แต่ก็มีข่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า Toyota อาจจะนำ Mazda 2 Hatchback มาเปลี่ยนตราสัญลักษณ์เพื่อขายในนาม All NEW Yaris แทนก็ได้Nancy Hubbell โฆษกแห่ง Toyota สหรัฐอเมริกา ได้เผยว่า Toyota มีสิทธิ์นำ Mazda 2 Hacthback มาขายในชื่อ Toyota Yaris ภายในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่ Yaris รุ่นปัจจุบันยุติสายการผลิต กรณีนี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไรนัก เพราะ Toyota Yaris iA Sedan ก็เป็นการนำ Mazda 2 Sedan รุ่นปัจจุบันมาเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าและเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ใหม่ ในกรณีนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่า All NEW Yaris จะได้ใช้ใบหน้าร่วมกับ Yaris iA อีกด้วยในข่าวไม่ได้ระบุว่า Yaris เวอร์ชันญี่ปุ่นและยุโรป จะมีความเปลี่ยนแปลงในทิศทางใด แต่ผู้เขียนคาดว่า น่าจะยังมีแผนการพัฒนาต่อไป เพราะยอดขายของทั้ง 2 ตลาดนี้ก็มียอดขายรวมกันสูงกว่า 250,000 คัน/ปี อีกทั้งเราก็ได้ยินข่าวคราวจากฝั่งญี่ปุ่นมาตลาดว่า All NEW Yaris อาจจะสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังใหม่ TNGA-B ที่คาดว่าน่าจะส่งผลต่อ All NEW Yaris/Yaris Ativ ในบ้านเราอีก 3-4 ปีข้างหน้าด้วยโตโยต้า ยาริส รุ่นที่สี่ได้เปิดตัวทดสอบเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 ในตลาดยุโรปและญี่ปุ่น แถมใช้โครงสร้าง TNGA-BAll NEW Toyota Yaris ออกแบบภายใต้แนวคิด B-Dash! ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากกระสุนปืนที่กำลังเร่งไปข้างหน้า ให้ผู้มองรู้สึกว่ารถยนต์คันนี้พร้อมที่จะ ออกตัวไปจากจุดหยุดนิ่งตลอดเวลา ส่วนการออกแบบช่วงกลางตัวถังให้กว้างจนกินพื้นที่มาถึงซุ้มล้อหน้า – หลัง เพื่อสื่อถึงประสบการณ์การขับขี่ที่ดี ด้านหน้าและโคมไฟหน้าดูโฉบเฉี่ยว สื่อถึงการไม่หวั่นเกรงสิ่งใด ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ 3 มิติแบบใหม่ สีตัวถังมีให้เลือก 12 สี รวมถึงสีใหม่อย่าง สีชมพู Ice Pink Metallic และ สีขาว Coral Crystal Shine ทั้งยังมีทางเลือกสี two-tone อีก 6 สี โดยสามารถเลือกจับคู่สีที่มีกับหลังคาสีดำ หรือ สีขาวGR YarisToyota GR Yaris ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วที่งานโตเกียว ออโต้ ซาลอน 2020 มาพร้อมนิยามการเป็นรถแข่งแรลลี่ที่ใช้งานได้บนถนนทั่วไป และถือเป็นตัวตายตัวแทนของรถแข่ง Celica GT-Four ในยุค 1980 – 1990 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ Toyota ส่งรถ GR Yaris ตัวแข่งเข้าฟาดฟันรายการแข่งขันแรลลี่โลก WRC และเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ในการเป็นรถสมรรถนะสูง ตัวถังเป็นแบบ 3 ประตูที่ให้ความโฉบเฉี่ยวมากกว่าสเปกอาเซียนที่เป็นแบบ 5 ประตู ขณะที่ระยะฐานล้อยังคงเท่ากับรุ่นสแตนดาร์ด รูปลักษณ์ภายนอกเสริมบอดี้พาร์ทและอุปกรณ์ตกแต่งที่เน้นความดุดันเป็นหลัก ไฮไลท์หลักแน่นอนว่าอยู่ใต้ฝากระโปรงที่บรรจุเครื่องยนต์รหัส G16E-GTS บล็อก 3 สูบ ความจุ 1.6 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ รีดพละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร โดยมีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ 4.706 กก.ต่อแรงม้า พละกำลังดังกล่าวทำให้เครื่องยนต์บล็อกนี้เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรที่แรงที่สุดในโลก ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ GR-Four AWD และมีเฟืองท้าย Torsen ที่เพลาหน้าและหลัง ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับได้ 3 รูปแบบ คือโหมด Normal โหมด Sport และโหมด Track พิเศษซื้อรถกับทางร้านเปลี่ยนผ้าเบรก เช็คช่วงล่าง ถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง ฟรี คุยกันได้ทุกเงื่อนไข ติดแบ็คลิส ผ่อนล่าช้า ก็ซื้อได้ เงินดาวน์น้อยหรือไม่ต้องใช้เงินดาวน์ ก็ซิ้อได้ เพียงโทรมาปรึกษาเรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำและรายละเอียด อย่าลืมโทรมานะคะ รถดี รถสวย ต้องเฉลิมชัยรถบ้าน”
อุปกรณ์
- แอร์
- USB
- วิทยุ
- CD
- ที่วางแก้วน้ำคอนโซลหน้า
- ไมล์ดิจิตอล
- เบาะหนัง
สเปค รายละเอียด
- ปีทะเบียน: 2006
- เลขไมล์: 154,230 km
- สภาพรถ: ใช้แล้ว
- เกียร์: อัตโนมัติ
- เครื่องยนต์: 1.5 L
- สีรถยนต์: สีดำ
- สีภายใน: สีดำ
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- เงินดาวน์: 999
- ค่างวด: น้อยกว่า 5xxx