เฉลิมชัย รถบ้าน

ที่สุดด้านคุณภาพและบริการ ต้องเฉลิมชัย รถบ้าน
โทร : 096-242-8639 เปิดทำการทุกวัน
110/4 หมู่ 1 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี

วิธีดูยางรถยนต์หมดอายุ ดูตรงไหน จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน

วิธีดูยางรถยนต์หมดอายุ ดูตรงไหน จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน

ยางรถยนต์ เป็นส่วนประกอบสำคัญของ รถยนต์ ที่จะต้องสัมผัสกับผิวถนนตลอดเวลา ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและใช้ในการขับเคลื่อนให้ตัวรถให้วิ่งไปได้อย่างนิ่มนวลและปลอดภัย ดังนั้นเราควรใส่ใจและดูแลอยู่เสมอ ซึ่งโดยปกติแล้ว ยางรถยนต์ไม่ได้หมดอายุเพียงแค่ดูวันที่ตามระยะเวลาการใช้งาน แต่ยังมีอีกหลายสาเหตุที่เป็นปัจจัยทำให้ยางรถยนต์หมดอายุ โดยเรามีวิธีเช็กและจุดสังเกตง่าย ๆ มาแนะนำ ดังนี้

  • ดูที่สะพานยาง ให้สังเกตส่วนที่เป็นเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างดอกยาง ซึ่งสิ่งนั้นเรียกว่า สะพานยาง หรือ Tire Tread Wear Indicator คือ ปุ่มในร่องดอกยางบนหน้ายางรถยนต์ เพื่อวัดความสูงของดอกยาง ถ้าดอกยางสึกจนอยู่ในระดับเดียวกับสะพานยาง แสดงว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะยางเส้นนั้นถูกใช้งานจนสึก จนไม่อาจสามารถทำหน้าที่ในการรีดน้ำได้ดีเหมือนกับยางเส้นใหม่ที่มีดอกยาวหนากว่า โดยผู้ใช้รถจะต้องตรวจเช็กสะพานยางทุก ๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร
  • สภาพดอกยาง อย่างที่ทราบกันว่า ดอกยางรถยนต์มีคุณสมบัติในการช่วยรีดน้ำเวลาที่เราต้องขับรถบนถนนที่เปียกหรือมีน้ำขัง เพื่อช่วยให้ผิวหน้าของยางรถยนต์ยังเกาะถนนได้ปกติ แต่หากดอกยางเหลือน้อยก็มีโอกาสสูงที่รถจะเสียหลักลื่นไถลได้ โดยปกติดอกยางใหม่จะลึกประมาณ 8-9 มิลลิเมตร แต่ถ้าดอกยางเหลือไม่ถึง 3 มิลลิเมตรแล้ว ควรรีบเปลี่ยนยางรถยนต์ทันที หรือสังเกตุด้วยตาเปล่า โดยนำไม้ขีดไฟทิ่มลงไปในร่องยาง ถ้าเห็นหัวไม้ขีด แสดงว่าดอกยางบาง และเหลือน้อย เกินกว่าจะใช้งานได้
  • เช็กความแข็งกระด้าง-รอยแตกลายงา ผิวยางรถยนต์ใหม่ ๆ จะมีความเงาและความนิ่มระดับหนึ่ง แต่เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ ผิวยางจะเริ่มแข็งกระด้าง ไปจนถึงปรากฏรอยแตกลายงา ซึ่งจะส่งผลต่อความทนทานของแก้มยาง และการเกาะถนนเป็นอย่างมาก ซึ่งควรให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสภาพของยาง เพื่อประเมินว่าควรเปลี่ยนเลยหรือไม่
  • ดูตำแหน่งรั่วของยาง หากเกิดยางรั่วและต้องปะยางรถยนต์ ควรทำกับยางที่มีรอยรั่วเล็ก ๆ และต้องอยู่บนหน้ายางเท่านั้น โดยตำแหน่งการรั่วของยางต้องไม่กระทบกับโครงสร้างยางภายใน หรือไม่ควรปะยางบริเวณแก้มหรือขอบยาง เพราะวัสดุที่นำมาใช้ปะยางนั้นไม่แข็งแรงพอที่จะสามารถยึดเหนี่ยวได้ หากใช้ยางต่อไป อาจเกิดยางระเบิด หรือยางแตกได้ในที่สุด ดังนั้นถ้าเกิดรั่วหรือแตกในบริเวณดังกล่างให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่จะดีที่สุด
  • ยางบวม ถ้ามีอาการยางบวม หรือปูดขึ้นมาจนเห็นได้ชัด ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ โดยอาการยางบวมนั้นมักมาจากการขับรถเสียดสีอย่างรุนแรง อาจเป็นการชนขอบทางเท้า หรือขับรถตกหลุม หรือยางที่ใช้ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหากขับรถไปทั้งที่ยางบวม ก็อาจเกิดอันตราย ยางระเบิด หรือยางแตกกลางทางได้ หรือหากแตะเนื้อยางแล้วพบว่ายางแข็ง คือจิกเล็บลงไปไม่เห็นรอย แสดงว่าหน้ายางหมดอายุ ก็ต้องรีบเปลี่ยนยางใหม่เช่นกัน
  • ดูตัวเลขที่บริเวณแก้มยาง อีกหนึ่งวิธีในการตรวจสอบการเสื่อมสภาพของยางก็คือการเช็กอายุของยางจากรหัส 4 ตัวบนแก้มยาง โดยจะระบุเป็น WW/YY หมายถึงสัปดาห์และปีที่ผลิต เช่น 0720 หมายถึงยางที่ผลิตในสัปดาห์ที่ 7 ปี 2020 หรือผลิตในช่วงสัปดาห์ที่ 1-2 ของเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 นั่นเอง (หนึ่งปีจะมี 52 สัปดาห์) ซึ่งการดูเลขรหัสนี้คือตัวกำหนดยางใหม่ และยางเก่าค้างสต็อก โดยปกติอายุขัยของยางใหม่จะเก็บได้นานถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และอุณหภูมิของคลังเก็บยาง ซึ่งจะส่งผลต่อเนื้อยาง

ทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยและสัญญาณที่บ่งบอกว่ายางรถยนต์เส้นนั้นเสื่อมสภาพ และหมดอายุ แนะนำควรรีบเปลี่ยนโดยด่วน เพราะถ้ายังฝืนใช้งานต่อไปเรื่อย ๆ อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งกับตัวของคุณเองและเพื่อนร่วมทาง

ขอบคุณข้อมูลจาก : guideautoweb.comauto.howstuffworks.combridgestonetire.com

แหล่งอ้างอิง https://car.kapook.com/view247142.html

แบ่งปัน

Post navigation

check-credit