รถความร้อนขึ้น เป็นอาการที่คุณคงไม่อยากพบเจอแน่นอน เพราะมันอาจทำให้เครื่องยนต์ของคุณอาจพังได้ สาเหตุเกิดจากอะไร? และเมื่อ รถความร้อนขึ้น ควรทำอย่างไร?
ปัญหารถความร้อนขึ้น หรือเรียกอีกอย่างนึงว่าเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท (Overheat) นั้นคงเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากเจอ หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ขับต่ออีกนิดก็คงไม่เป็นไร แต่หารู้ไม่ว่า..เครื่องยนต์ของคุณอาจน็อคพังไปเลย หรือปัญหาอาจลุกลามไปยังชื้นส่วนอื่นๆได้ คำถามคือ สาเหตุเกิดจากอะไร? แล้วถ้าเราเจอปัญหาความร้อนขึ้นระหว่างขับรถควรทำอย่างไร?
เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท หมายถึง ความร้อนของเครื่องยนต์สูงเกินระดับที่ใช้งานปกติ ซึ่งสาเหตุของอาการความร้อนขึ้นสูงผิดปกติจริงๆแล้วมีอยู่หลายข้อ ลองไปดูกัน
รถความร้อนขึ้นอาจเกิดจาก
1.หม้อน้ำรั่ว/แตก หรือ ท่อน้ำรั่ว/แตก เพราะระบบระบายความร้อนอาจมีความผิดปกติหรือมีการรั่วซึมทำให้น้ำในระบบหล่อเย็น (น้ำในหม้อน้ำ) ไม่เพียงพอ อุณภูมิเครื่องยนต์จึงเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น
2.รังผึ้งบริเวณหม้อน้ำมีสิ่งสกปรกไปอุดตัน ความร้อนจะสูงขึ้นขณะที่รถวิ่ง
3.พัดลมหม้อน้ำ, เทอร์โมสวิตช์ หรือรีเลย์พัดลมมีปัญหา ซึ่งถ้าความร้อนขึ้นในขณะที่รถติด และลดลงในขณะที่รถวิ่ง แปลว่าส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหาหรืออาจมีปัญหาหลายส่วนพร้อมกัน
4.วาล์วน้ำไม่ทำงาน ทำให้ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลาทั้งตอนรถวิ่งและรถหยุด
5.ลืมเติมน้ำในหม้อน้ำ หรือไม่เคยตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำเลยก็อาจทำให้ปัญหาความร้อนขึ้นมาเยือนคุณ
6.ไฟเตือนความร้อนที่หน้าปัดเสีย หรือเข็มแสดงความร้อนเสีย บางครั้งอาจเป็นแค่กรณีไฟเตือนและเข็มความร้อนมีปัญหาเฉยๆ
ซึ่งหากคุณเกิดตกอยู่ในสถานการณ์รถความร้อนขึ้นหรือเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท ควรปฏิบัติตามนี้
1.ให้หาที่จอดรถข้างทางและดับเครื่องยนต์ทันที เพื่อให้ระบบเครื่องยนต์ได้หยุดการทำงานก่อน
2.เปิดฝากระโปรงรถเพื่อระบายความร้อน ห้ามนำน้ำไปราดบนเครื่องยนต์โดยเด็ดขาดเพราะเหล็กที่ร้อนมากๆเจอกับน้ำเย็นแบบฉับพลันจะทำให้เหล็กหดตัวและแตกได้
3.จอดพักจนกว่าความร้อนจะลดลง และอย่าเปิดฝาหม้อน้ำทันที เพราะแรงดันน้ำที่เกิดจากความร้อนสูงอาจทำให้น้ำในหม้อน้ำ (ร้อนมาก) พุ่งออกด้วยความแรงจนจะลวกมือได้ ให้รอประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าหม้อน้ำจะเริ่มเย็น
4.พอเครื่องยนต์เริ่มคลายความร้อน อุณหภูมิเริ่มลดลง ให้เปิดฝาหม้อน้ำออกทีละนิดโดยใช้ผ้าหนาๆจับระหว่างเปิดฝา
5.หลังจากนั้นลองเติมน้ำกลับเข้าไปให้อยู่ในระดับที่มีขีดสัญลักษณ์กำหนด หากไม่มีความผิดปกติใดๆ และอุณหภูมิคงที่ ก็ยังพอสามารถขับต่อได้ แต่ต้องคอยสังเกตความร้อนตลอดเวลา
6.ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางหลังจากนี้ เช่น ขับกลับไปจอดที่่บ้าน หรือขับไปอู่ ก็ควรจอดพักรถเป็นระยะตามความเหมาะสมระหว่างขับขี่ ห้ามขับทางยาวรวดเดียวโดนไม่พักไม่อย่างนั้นเครื่องพังและลามไปยังปัญหาชิ้นส่วนอื่นๆแน่นอน
จากนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนเจอเหตุการณ์ความร้อนขึ้นอีกก็ไม่ต้องตื่นตกใจแล้วนะครับ แนะนำให้ทำตามขั้นตอนดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเบื้องต้น หรือรีบหาที่จอดรถข้างทางแล้วติดต่อเรียกช่างมาดูจะปลอดภัยที่สุดครับ
แหล่งที่มา: เว็บไซต์ cartrack.co.th